วิทยาศาสตร์ความงาม ศาสตร์และศิลป์ในการดูแลเรือนร่าง
Liposelection เป็นการปฎิวัติการสลายไขมันที่เน้นเฉพาะเจาะจงได้ตรงจุดมากกว่าวิธีเดิมๆ โดยนำเทคโนโลยี Ultrasound มาใช้ในการสลายไขมัน โดยการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าไปแยกเซลล์ไขมันและตรงเข้าทำลายเฉพาะไขมันบริเวณส่วนเกินเป็นละลอกๆ ให้เกิดการแตกตัวเป็นของเหลว แล้วจึงดูดของเหลวหรือไขมันนั้นออก
โดยที่เนื้อเยื่อสำคัญไม่ถูกทำลายไปด้วย จึงเป็นวิธีการสลายไขมันที่มีความแม่นยำอ่อนโยนและปลอดภัย หลังทำผิวพรรณบริเวณที่ทำยังเกิดการกระชับเรียบเนียนขึ้นด้วย ในขณะที่การดูดไขมันแบบดั้งเดิมสามารถส่งผลให้บริเวณพื้นผิวนั้นเป็นก้อนหรือไม่สม่ำเสมอได้
ลักษณะของผู้ที่ควรทำ LipoSelection
ผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน บริเวณต่างๆ ผิวไม่สม่ำเสมอมีเซลลูไลท์ ไร้ส่วนเค้าส่วนโค้ง ตลอดจนคนมีรูปร่างที่อ้วนหรือน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน แต่ต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ และมีค่าดัชนีมวลกายไม่เกิน 30%
บริเวณที่ใช้ LipoSelection (สลายไขมัน) : บริเวณแก้ม, กรามใต้คาง, คอ-โหนกบริเวณหลังต้นคอ, หน้าอก , ทรวงอก , หน้าท้อง, เอว , หลัง, สะโพก, ก้น, ต้นขา, เข่า, แขน, หลังรักแร้และด้านหน้ารักแร้
ข้อแตกต่างของการสลายไขมันแบบเดิมๆ
การรักษาแบบใหม่ด้วย LipoSelection
1. มีความปลอดภัย เพราะไม่ต้องผ่าตัด
2. สลายไขมันได้โดยไม่มีผลต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ
3. ผิวกระชับฟื้นตัวเร็ว ผิวเรียบเนียน เพราะคลอลาเจนไม่ถูกทำลาย
4. ไม่ต้องพักฟื้น
การรักษาแบบเดิมด้วย LipoSuction
1. ใช้การผ่าตัด จึงมีความเสี่ยงสูง
2. การสลายไขมันที่ไม่เจาะจง ทำให้กระทบต่อเนื้อเยื้อและเส้นประสาทโดยรอบ
3. เกิดความบอบช้ำสูง มีรอยฟกช้ำ บวม ทำให้ต้องพักฟื้นถึง 2 อาทิตย์
4. ผิวเป็นคลื่น เป็นลอน เพราะเนื้อเยื่อคลอลาเจนถูกทำลาย
เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Vaser LipoSelection
• เลือกสลายไขมันได้เฉพาะส่วนที่เจาะจงอย่างแม่นยำ
• ใช้สลายไขมันได้แทบเกือบจะทุกส่วนของร่างกาย
• สามารถทำได้แม้ในจุดที่การสลายไขมันแบบเก่าทำได้ยาก เช่นบริเวณ คอ หลัง เป็นต้น
• ทำงานด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เป็นละลอก ด้วยความนุ่มนวล ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื้อ เส้นเลือด หรือเส้นประสาทโดยรอบ
• การฟื้นตัวของคนไข้หลังทำเร็วกว่าการสลายไขมันแบบเก่า
• หลังรักษาผิวที่ผ่านการทำสามารถคืนตัวสู่ความเรียบเนียน กระชับ ไม่เกิดปัญหาผิวเป็นลอนคลื่น
กระบวนการทำงานของ LipoSelection
Visualizing LipoSelection
แพทย์จะเติมสารละลายน้ำเกลือชนิดพิเศษ เข้ายังบริเวณที่กำจัดไขมัน เพื่อช่วยให้เกิดอาการชา และทำให้หลอดเลือดบริเวณนั้นหดตัว ซึ่งช่วยให้การสูญเสียเลือดน้อยที่สุด และลดการเกิดรอยช้ำ
แท่งฟิวส์ขนาดเล็กจะแทรกเข้าไปในร่างกาย โดยการส่งแรงสั่นสะเทือนความถี่สูง เข้าไปเขย่าเซลล์ไขมันเป็นละลอกให้แตกตัวออกจากกันอย่างหลวมๆ จนกลายเป็นไขมันเหลว โดยทำให้ลดพลังงานลง ได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับคลื่นเสียงรุ่นแรกๆ ทำให้ เนื้อเยื่อ เส้นเลือด และเส้นประสาทไม่ได้รับอันตราย
จากแรงสั่นสะเทือนความถี่สูงเป็นละลอก ทำให้เซลล์ไขมันที่แตกตัวออกจากกันผสมกับของเหลว ไขมันส่วนเกินจะถูกดูดออกจากร่างกายอย่างอ่อนโยนผ่านแท่งฟิวส์เล็ก
หลังการรักษาเนื้อเยื่อบริเวณที่ผ่านการทำ LipoSelection จะค่อยๆ หดตัวกลับสู่สภาพเดิม กระชับเรียบเนียนเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ผิวหลังการทำ LipoSelection
ผลจากการที่ผิวหนังถูกสลายไขมันออกไป ตามกระบวนการปกติของร่างกายคนเราจะค่อยๆ ปรับตัวคืนสู่สภาพปกติ ผิวหนังหดตัวกระชับสวยตามกระบวนการ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
หลังการทำ LipoSelection ควรปฏิบัติตัวดังนี้
• หลังสลายไขมัน สามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
• ควรพักผ่อน 1 วัน โดยไม่ทำกิจกรรมที่หักโหมใดๆ
• รัดผ้ายืด (ซับพอร์ต) ตลอด 1 สัปดาห์แรก
• รัดผ้ายืด (ซับพอร์ต) ลดลงเหลือ 12 ซม. ต่อวัน ในสัปดาห์ที่ 2
• รัดผ้ายืด (ซับพอร์ต) บ้างเป็นครั้งคราว หลังจากสัปดาห์ที่ 3 จนครบ 3 เดือน ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลผิวที่หดรัดตัวกระชับเรียบเนียน
Q : ราคาการทำ Liposelection สลายไขมัน คิดยังไง ต่อคนเท่าไหร่
A : การทำ Liposelection สลายไขมัน นั้นคิดราคาเป็นจุด เป็นการแบ่งพื้นที่ตามสัดส่วนของร่างกาย แต่ละรายจึงไม่เท่ากัน บางรายทำตามจุดปกติ แต่บางรายอาจมีจุดที่ทำเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีไขมันสะสมมากกว่า จึงแนะนำให้เข้ารับการปรึกษาก่อน เพราะบางคนกลัวว่าราคาจะแพง ซึ่งความจริงอาจไม่ได้ทำทุกจุดอย่างที่เข้าใจ แต่ในแต่ละจุดที่ทำผลลัพธ์ที่ได้นั้นชัดเจน และเห็นผลความเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ
Q : การทำ Liposelection แตกต่างจากการกำจัดไขมันแบบ Liposuction อย่างไร
A : การสลายไขมันด้วย Liposelection นั้น สามารถที่จะเลือกพื้นที่เฉพาะเจาะจงในการกำจัดไขมันได้อย่างแม่นยำ นุ่มนวล ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยือใกล้เคียง หลังการรักษาผิวเรียบเนียนกระชับขึ้น ฟื้นตัวไว และสามารถสลายไขมันได้มากกว่าแบบ Liposuction ที่ไม่สามารถเลือกสลายได้เฉพาะไขมัน แต่อาจมีผลกระทบให้เนื้อเยี่อ บริเวณโดยรอบได้รับผลกระทบ ไปด้วย เป็นผลทำให้หลังการรักษา เกิดกระบวนการซ่อมแซมที่ไม่สมบรูณ์ มีผลทำให้ผิวไม่เรียบเนียนเป็นและก้อนได้
Q : หากเป็นคนอ้วนมีน้ำหนักมาก เกิน 3 เท่าของน้ำหนักตัว แต่มีร่างกายที่แข็งแรง สามารถที่จะสลายไขมัน ด้วย Liposelection ได้ไหม
A : สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก แต่แข็งแรง นั้นสามารถที่จะรักษาด้วย Liposelection ได้ แต่ทั้งนี้การที่ต้องกำจัดไขมันเยอะๆ นั้น แพทย์อาจแนะนำให้คนไข้ลดน้ำหนักก่อนทำ ในรายที่น้ำหนักมากๆ และถึงทำการสลายไขมันด้วย Liposelection
Q : หลังทำ Liposelection แรกๆ ควรดูแลตัวเองอย่างไร
A : ควรพักผ่อนใน 1 อาทิตย์แรก โดยไม่ทำงานหักโหม และอาทิตย์แรกควรใส่ซับพอร์ตร่วมด้วยเพื่อผิวที่กระชับตามคำแนะนำแพทย์ผู้รักษา และควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลังแพทย์ผู้ทำอนุญาติแล้วและควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วยไม่ควรทานอาหารที่เพิ่มไขมันตลอดเวลา หรือรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เพื่อเป็นการรักษารูปร่างไม่ให้กลับมาอ้วนขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้กลับมาอ้วนได้ง่ายๆ จึงไม่ต้องกังวลมาก
Q : ระยะเวลาการใส่ ซับพอร์ต หลังทำการสลายไขมัน
A : ตามปกติ 1 อาทิตย์แรกควรใส่ซับพอร์ตตลอดเพื่อผิวที่กระชับ อาทิตย์ที่ 2 ใส่แค่ 12 ชั่วโมงต่อวันก็เพียงพอ จากนั้นอาทิตย์ 3-4 อาจใส่บ้างถอดบ้างก็ได้หากอึดอัด เป็นเวลารวมทั้งหมดตั้งแต่ทำเราควรอยู่กับ ซับพอร์ตเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้ผิวกระชับเข้าที่ หรือตามคำแนะนำจากแพทย์ผู้รักษาเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด
ที่สำคัญ คุณควรเตรียมสุขภาพและร่างกายให้พร้อม ก่อนเข้ารับบริการ เพื่อผลลัพธ์ในการสลายไขมันที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีค่ะ
กรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อให้เราติดต่อกลับ
วิทยาศาสตร์ความงาม ศาสตร์และศิลป์ในการดูแลเรือนร่าง
Liposelection เป็นการปฎิวัติการสลายไขมันที่เน้นเฉพาะเจาะจงได้ตรงจุดมากกว่าวิธีเดิมๆ โดยนำเทคโนโลยี Ultrasound มาใช้ในการสลายไขมัน โดยการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าไปแยกเซลล์ไขมันและตรงเข้าทำลายเฉพาะไขมันบริเวณส่วนเกินเป็นละลอกๆ ให้เกิดการแตกตัวเป็นของเหลว แล้วจึงดูดของเหลวหรือไขมันนั้นออก
โดยที่เนื้อเยื่อสำคัญไม่ถูกทำลายไปด้วย จึงเป็นวิธีการสลายไขมันที่มีความแม่นยำอ่อนโยนและปลอดภัย หลังทำผิวพรรณบริเวณที่ทำยังเกิดการกระชับเรียบเนียนขึ้นด้วย ในขณะที่การดูดไขมันแบบดั้งเดิมสามารถส่งผลให้บริเวณพื้นผิวนั้นเป็นก้อนหรือไม่สม่ำเสมอได้
ลักษณะของผู้ที่ควรทำ LipoSelection
ผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน บริเวณต่างๆ ผิวไม่สม่ำเสมอมีเซลลูไลท์ ไร้ส่วนเค้าส่วนโค้ง ตลอดจนคนมีรูปร่างที่อ้วนหรือน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน แต่ต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ และมีค่าดัชนีมวลกายไม่เกิน 30%
บริเวณที่ใช้ LipoSelection (สลายไขมัน) : บริเวณแก้ม, กรามใต้คาง, คอ-โหนกบริเวณหลังต้นคอ, หน้าอก , ทรวงอก , หน้าท้อง, เอว , หลัง, สะโพก, ก้น, ต้นขา, เข่า, แขน, หลังรักแร้และด้านหน้ารักแร้
ข้อแตกต่างของการสลายไขมันแบบเดิมๆ
การรักษาแบบใหม่ด้วย LipoSelection
1. มีความปลอดภัย เพราะไม่ต้องผ่าตัด
2. สลายไขมันได้โดยไม่มีผลต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ
3. ผิวกระชับฟื้นตัวเร็ว ผิวเรียบเนียน เพราะคลอลาเจนไม่ถูกทำลาย
4. ไม่ต้องพักฟื้น
การรักษาแบบเดิมด้วย LipoSuction
1. ใช้การผ่าตัด จึงมีความเสี่ยงสูง
2. การสลายไขมันที่ไม่เจาะจง ทำให้กระทบต่อเนื้อเยื้อและเส้นประสาทโดยรอบ
3. เกิดความบอบช้ำสูง มีรอยฟกช้ำ บวม ทำให้ต้องพักฟื้นถึง 2 อาทิตย์
4. ผิวเป็นคลื่น เป็นลอน เพราะเนื้อเยื่อคลอลาเจนถูกทำลาย
เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Vaser LipoSelection
• เลือกสลายไขมันได้เฉพาะส่วนที่เจาะจงอย่างแม่นยำ
• ใช้สลายไขมันได้แทบเกือบจะทุกส่วนของร่างกาย
• สามารถทำได้แม้ในจุดที่การสลายไขมันแบบเก่าทำได้ยาก เช่นบริเวณ คอ หลัง เป็นต้น
• ทำงานด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เป็นละลอก ด้วยความนุ่มนวล ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื้อ เส้นเลือด หรือเส้นประสาทโดยรอบ
• การฟื้นตัวของคนไข้หลังทำเร็วกว่าการสลายไขมันแบบเก่า
• หลังรักษาผิวที่ผ่านการทำสามารถคืนตัวสู่ความเรียบเนียน กระชับ ไม่เกิดปัญหาผิวเป็นลอนคลื่น
กระบวนการทำงานของ LipoSelection
Visualizing LipoSelection
แพทย์จะเติมสารละลายน้ำเกลือชนิดพิเศษ เข้ายังบริเวณที่กำจัดไขมัน เพื่อช่วยให้เกิดอาการชา และทำให้หลอดเลือดบริเวณนั้นหดตัว ซึ่งช่วยให้การสูญเสียเลือดน้อยที่สุด และลดการเกิดรอยช้ำ
แท่งฟิวส์ขนาดเล็กจะแทรกเข้าไปในร่างกาย โดยการส่งแรงสั่นสะเทือนความถี่สูง เข้าไปเขย่าเซลล์ไขมันเป็นละลอกให้แตกตัวออกจากกันอย่างหลวมๆ จนกลายเป็นไขมันเหลว โดยทำให้ลดพลังงานลง ได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับคลื่นเสียงรุ่นแรกๆ ทำให้ เนื้อเยื่อ เส้นเลือด และเส้นประสาทไม่ได้รับอันตราย
จากแรงสั่นสะเทือนความถี่สูงเป็นละลอก ทำให้เซลล์ไขมันที่แตกตัวออกจากกันผสมกับของเหลว ไขมันส่วนเกินจะถูกดูดออกจากร่างกายอย่างอ่อนโยนผ่านแท่งฟิวส์เล็ก
หลังการรักษาเนื้อเยื่อบริเวณที่ผ่านการทำ LipoSelection จะค่อยๆ หดตัวกลับสู่สภาพเดิม กระชับเรียบเนียนเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ผิวหลังการทำ LipoSelection
ผลจากการที่ผิวหนังถูกสลายไขมันออกไป ตามกระบวนการปกติของร่างกายคนเราจะค่อยๆ ปรับตัวคืนสู่สภาพปกติ ผิวหนังหดตัวกระชับสวยตามกระบวนการ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
หลังการทำ LipoSelection ควรปฏิบัติตัวดังนี้
• หลังสลายไขมัน สามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
• ควรพักผ่อน 1 วัน โดยไม่ทำกิจกรรมที่หักโหมใดๆ
• รัดผ้ายืด (ซับพอร์ต) ตลอด 1 สัปดาห์แรก
• รัดผ้ายืด (ซับพอร์ต) ลดลงเหลือ 12 ซม. ต่อวัน ในสัปดาห์ที่ 2
• รัดผ้ายืด (ซับพอร์ต) บ้างเป็นครั้งคราว หลังจากสัปดาห์ที่ 3 จนครบ 3 เดือน ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลผิวที่หดรัดตัวกระชับเรียบเนียน
Q : ราคาการทำ Liposelection สลายไขมัน คิดยังไง ต่อคนเท่าไหร่
A : การทำ Liposelection สลายไขมัน นั้นคิดราคาเป็นจุด เป็นการแบ่งพื้นที่ตามสัดส่วนของร่างกาย แต่ละรายจึงไม่เท่ากัน บางรายทำตามจุดปกติ แต่บางรายอาจมีจุดที่ทำเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีไขมันสะสมมากกว่า จึงแนะนำให้เข้ารับการปรึกษาก่อน เพราะบางคนกลัวว่าราคาจะแพง ซึ่งความจริงอาจไม่ได้ทำทุกจุดอย่างที่เข้าใจ แต่ในแต่ละจุดที่ทำผลลัพธ์ที่ได้นั้นชัดเจน และเห็นผลความเปลี่ยนแปลงได้หลังทำ
Q : การทำ Liposelection แตกต่างจากการกำจัดไขมันแบบ Liposuction อย่างไร
A : การสลายไขมันด้วย Liposelection นั้น สามารถที่จะเลือกพื้นที่เฉพาะเจาะจงในการกำจัดไขมันได้อย่างแม่นยำ นุ่มนวล ไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยือใกล้เคียง หลังการรักษาผิวเรียบเนียนกระชับขึ้น ฟื้นตัวไว และสามารถสลายไขมันได้มากกว่าแบบ Liposuction ที่ไม่สามารถเลือกสลายได้เฉพาะไขมัน แต่อาจมีผลกระทบให้เนื้อเยี่อ บริเวณโดยรอบได้รับผลกระทบ ไปด้วย เป็นผลทำให้หลังการรักษา เกิดกระบวนการซ่อมแซมที่ไม่สมบรูณ์ มีผลทำให้ผิวไม่เรียบเนียนเป็นและก้อนได้
Q : หากเป็นคนอ้วนมีน้ำหนักมาก เกิน 3 เท่าของน้ำหนักตัว แต่มีร่างกายที่แข็งแรง สามารถที่จะสลายไขมัน ด้วย Liposelection ได้ไหม
A : สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก แต่แข็งแรง นั้นสามารถที่จะรักษาด้วย Liposelection ได้ แต่ทั้งนี้การที่ต้องกำจัดไขมันเยอะๆ นั้น แพทย์อาจแนะนำให้คนไข้ลดน้ำหนักก่อนทำ ในรายที่น้ำหนักมากๆ และถึงทำการสลายไขมันด้วย Liposelection
Q : หลังทำ Liposelection แรกๆ ควรดูแลตัวเองอย่างไร
A : ควรพักผ่อนใน 1 อาทิตย์แรก โดยไม่ทำงานหักโหม และอาทิตย์แรกควรใส่ซับพอร์ตร่วมด้วยเพื่อผิวที่กระชับตามคำแนะนำแพทย์ผู้รักษา และควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลังแพทย์ผู้ทำอนุญาติแล้วและควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วยไม่ควรทานอาหารที่เพิ่มไขมันตลอดเวลา หรือรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เพื่อเป็นการรักษารูปร่างไม่ให้กลับมาอ้วนขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้กลับมาอ้วนได้ง่ายๆ จึงไม่ต้องกังวลมาก
Q : ระยะเวลาการใส่ ซับพอร์ต หลังทำการสลายไขมัน
A : ตามปกติ 1 อาทิตย์แรกควรใส่ซับพอร์ตตลอดเพื่อผิวที่กระชับ อาทิตย์ที่ 2 ใส่แค่ 12 ชั่วโมงต่อวันก็เพียงพอ จากนั้นอาทิตย์ 3-4 อาจใส่บ้างถอดบ้างก็ได้หากอึดอัด เป็นเวลารวมทั้งหมดตั้งแต่ทำเราควรอยู่กับ ซับพอร์ตเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้ผิวกระชับเข้าที่ หรือตามคำแนะนำจากแพทย์ผู้รักษาเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด
ที่สำคัญ คุณควรเตรียมสุขภาพและร่างกายให้พร้อม ก่อนเข้ารับบริการ เพื่อผลลัพธ์ในการสลายไขมันที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีค่ะ
กรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อให้เราติดต่อกลับ
ณรวี คลินิก คลินิกศัลยกรรมความงาม
16 ซอยอุดมสุข 30 ถ.สุขุมวิท 103 บางนา กรุงเทพฯ 10260ณรวี คลินิก คลินิกศัลยกรรมความงาม
16 ซอยอุดมสุข 30 ถ.สุขุมวิท 103 บางนา กรุงเทพฯ 10260